เขตสุขภาพที่ 1 “เร่งพัฒนาศักยภาพบุคลากร พร้อมทั้งทบทวนบทบาท หน้าที่  รองรับ การจัดบริการจิตเวชสารเสพติด“ 

วันนี้ (19 ธันวาคม 2567) ดร.นายแพทย์สราวุฒิ บุญสุข ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 1 เป็นประธานเปิดโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการ “การจัดการผู้ป่วยฉุกเฉินทางจิตเวช” สำหรับบุคลากรสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาล สังกัดกระทรวงสาธารณสุข พื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 150 คน โดยมี นายแพทย์คงศักดิ์ ชัยชนะ ประธานพัฒนาระบบบริการสุขภาพจิตและยาเสพติด กล่าวรายงาน พร้อมด้วยผู้บริหารเขตสุขภาพที่ 1 ร่วมเป็นเกียรติในงาน ณ โรงพยาบาลนครพิงค์ จังหวัดเชียงใหม่ 

ดร.นายแพทย์สราวุฒิ บุญสุข ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 1 กล่าวว่า เขตสุขภาพที่ 1 ขานรับนโยบายเร่งด่วนของกระทรวงสาธารณสุข ที่ให้ทุกเขตสุขภาพเร่งดำเนินการทบทวนความรู้ แนวทางในการสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาทและเสริมทักษะของผู้ปฏิบัติงานในการดูแลผู้ป่วยจิตเวชและสารเสพติดที่มีพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง โดยได้มอบนโยบายการดำเนินงาน ”สุขภาพจิตและสารเสพติด“ เขตสุขภาพ 3 ข้อ ดังนี้ ข้อ 1. “เสริมสร้าง” บทบาทและหน้าที่บุคลากรทางการแพทย์ ให้แต่ละโรงพยาบาลสร้างความเข้าใจแก่บุคลากร เน้นการบริการผู้ป่วยโดยใช้หลักจริยธรรมทางการแพทย์ และหลักการบำบัดรักษา ข้อ 2. “เร่งรัดทบทวน” พัฒนาศักยภาพ “หอผู้ป่วยจิตเวชและมินิธัญญารักษ์” ให้ทบทวนการดูแลผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงต่อการก่อความรุนแรงในกลุ่มเสี่ยงสูงให้มีมาตรการการดำเนินงานที่ปลอดภัยทั้งต่อผู้ป่วยละบุคลากรที่ดูแล และข้อ 3. “พัฒนา สนับสนุน” ระบบเฝ้าระวังความเสี่ยง ถ่ายทอดองค์ความรู้ กำกับติดตาม ใช้การประเมินทางคลินิกที่มีโอกาสเกิดจิตเวชฉุกเฉิน เสี่ยงต่อการก่อความรุนแรง โดยหามาตรการให้มีการจัดการเชิงระบบอย่างเป็นขั้นตอน

โดยโรงพยาบาลสวนปรุง กรมสุขภาพจิต ได้จัดโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการการจัดการผู้ป่วยฉุกเฉินทางจิตเวชขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการขับเคลื่อนนโยบายทั้ง 3 ข้อในเขตสุขภาพที่ 1 ให้ออกมาอย่างเป็นรูปธรรม มีการสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับบุคลากรผู้ปฏิบัติงานในการจัดการผู้ป่วยฉุกเฉินทางจิตเวชที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง เกิดทักษะการจัดการและจำกัดพฤติกรรมผู้ป่วยได้อย่างถูกต้องเหมาะสม โดยจะดำเนินการอบรมให้ครบทั้ง 8 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน พะเยา แพร่ และน่าน ให้เสร็จสิ้นภายในเดือนมกราคม 2568 เพื่อให้บุคลากรสาธารณสุขเกิดความมั่นใจในการปฏิบัติงาน สามารถให้การดูแลผู้ป่วยอย่างมีประสิทธิภาพให้เกิดความปลอดภัยทั้งผู้ป่วยและผู้ปฏิบัติงาน ต่อไป