กองทัพภาคที่ 3 บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำแนวกันไฟรอบพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ–ปุย จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นพื้นที่ไฟไหม้ซ้ำซาก ป้องกันไฟไหม้ลุกลามขยายวงกว้าง 

.

วันนี้ (4 ก.พ. 68) ที่บริเวณสนามเฮลิคอปเตอร์พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ พลตรี ชายแดน กฤษณสุวรรณ รองแม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละออง ภาค 3 เป็นประธานเปิดกิจกรรมจิตอาสาทำแนวกันไฟรอบพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ “ปลุกพลัง สร้างแนวกันไฟ ฟ้าใสไร้ฝุ่นควัน” เพื่อถวายการอารักขาในห้วงระยะเวลาที่พระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์เสด็จมาประทับแรม ณ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ มิให้ปัญหาไฟป่าระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท เพื่อเตรียมการป้องกัน รับสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควัน ตลอดจนเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานควบคุมไฟป่า 

.

โดยเป็นการบูรณาการหน่วยทหารในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ 10 หน่วย เจ้าหน้าที่ส่วนราชการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 22 หน่วยงาน และประชาชนจิตอาสา กว่า 500 คน เข้าร่วมกิจกรรมทำแนวกันไฟบริเวณรอบพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ โดยวันนี้ได้ทำแนวกันไฟขึ้นไปทางทิศเหนือ 5 กิโลเมตร และทางทิศใต้  1 กิโลเมตร และหลังนี้ สถานีควบคุมไฟป่าภูพิงค์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะดำเนินการบำรุงรักษาแนวกันไฟหรือการกวาดแนวกันไฟ ทุก 15 – 20 วันตลอดช่วงเฝ้าระวังไฟป่า 

.

ทั้งนี้ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ ถือเป็นพื้นที่สำคัญ ที่กำหนดเขตพื้นที่การป้องกันไฟป่าเป็นพิเศษห้ามเกิดไฟป่าขึ้นโดยเด็ดขาดในรัศมี 1 กิโลเมตร และรัศมี 5 กิโลเมตร โดยรอบพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์จะต้องมีการดูแลอย่างเข้มข้น ทั้งนี้อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ–ปุย มีเนื้อที่กว่า 160,814 ไร่ หรือประมาณ 257 ตารางกิโลเมตรเป็นป่าผืนใหญ่ที่อยู่ใกล้เมืองเชียงใหม่ที่สุด และเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารที่เกิดไฟป่าซ้ำซากเป็นประจำทุกปี จึงต้องทำแนวกันไฟป้องกันไฟไหม้ลุกลามขยายวงกว้าง 

.

//////////////////

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่

4 กุมภาพันธ์ 2567